รักษากระ เรียกคืนความใส บนใบหน้ากระจ่างใสขึ้น

รักษากระ

การรักษากระไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่หลายคนเข้าใจ หลายคนอาจรู้สึกท้อใจกับกระและจุดด่างดำที่เห็นชัดบนใบหน้า แต่แท้จริงแล้ว หากเราเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงของกระแต่ละประเภทตั้งแต่ต้น ก็สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด ช่วยให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น และฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียน กระจ่างใสได้เร็วขึ้นกว่าที่คิด

เลือกอ่านหัวข้อเกี่ยวกับการรักษากระ

รู้จักกระ

กระ คืออะไร

กระ คือจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาลหรือสีดำที่มักปรากฏบนผิวหนัง ที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ซึ่งมักปรากฏบริเวณใบหน้า ลำคอ แขน หรือบริเวณที่โดนแสงแดดบ่อย โดยเฉพาะในคนที่มีผิวขาว

กระเป็นลักษณะแบบไหน

กระมีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงน้ำตาลเข้ม ขนาดเล็ก มักกระจายตัวทั่วบริเวณที่โดนแดด เช่น โหนกแก้ม จมูก หน้าผาก หรือลำคอ จุดเด่นคือจะเห็นชัดเจนขึ้นเมื่อเจอแดด และจางลงบ้างในช่วงที่ไม่ได้โดนแสงมาก

ประเภทของกระที่พบได้ทั่วไป มีอะไรบ้าง

  • กระตื้น (Freckles หรือ Ephelides)
    มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม พบได้บ่อยในคนอายุน้อย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากพันธุกรรม และจะถูกกระตุ้นให้กระมีสีเข้มขึ้นเมื่อโดนแสงแดด มักพบในคนผิวขาว
  • กระลึก (Dermal Lentigines)
    เป็นจุดมีสีเข้ม น้ำตาลเทา หรือน้ำตาลเข้ม ขนาดใหญ่กว่ากระตื้น ลักษณะคล้ายรอยปาน กระชนิดนี้เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดสีที่อยู่ในชั้นผิวหนังที่ลึกกว่าปกติ
  • กระแดด (Solar Lentigines)
    กระที่เกิดจากการสะสมรังสี UV ในระยะยาว มักพบในผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป และเจอแดดเป็นประจำ เช่น ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง ลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเข้ม ขอบชัด
  • กระเนื้อ
    แม้ชื่อจะคล้ายกระ แต่กระเนื้อเป็น “ติ่งเนื้อ” ที่เกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังชั้นบน ลักษณะเป็นตุ่มนูน ผิวขรุขระ สีน้ำตาล เทา หรือดำ มักพบในวัยกลางคนและผู้สูงอายุ สามารถพบได้ทั่วร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า ลำตัว แผ่นหลัง และแขน

กระเกิดขึ้นได้จากอะไรบ้าง

  • แสงแดดและรังสี UV
    เป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่ไม่ปกป้องผิวจากแสงแดด กระจึงมักชัดขึ้นหรือเพิ่มจำนวนเมื่อผิวโดนแดดเป็นประจำ
  • พันธุกรรม
    ผู้ที่มีประวัติกระในครอบครัว โดยเฉพาะกระตื้น มักจะมีแนวโน้มเกิดกระได้ง่ายกว่าคนทั่วไป และกระจะเริ่มเห็นชัดตั้งแต่อายุยังน้อย
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
    ในบางกรณี เช่น ช่วงตั้งครรภ์ การกินยาคุม หรือวัยทอง ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เปลี่ยนแปลง อาจกระตุ้นให้ผิวไวต่อแสงและเกิดกระได้ง่ายขึ้น
  • การใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์บางชนิด
    ยาบางกลุ่ม เช่น ยากันชัก ยาฮอร์โมน หรือเครื่องสำอางบางชนิดที่มีสารเร่งให้ผิวไวแสง อาจทำให้เกิดกระหรือกระตุ้นให้กระเดิมเข้มขึ้น
  • อายุที่เพิ่มขึ้น
    เมื่ออายุมากขึ้น ระบบผิวหนังจะทำงานได้น้อยลง ร่วมกับการโดนแสงแดดสะสม ทำให้เกิดกระแดดหรือกระเนื้อได้มากขึ้นในวัยกลางคนขึ้นไป

วิธีรักษากระ

รักษากระด้วยเลเซอร์

การรักษากระด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เพราะสามารถจัดการกับเม็ดสีเมลานินที่สะสมในชั้นผิวได้อย่างตรงจุด โดยไม่ทำลายผิวบริเวณรอบข้าง ทำให้จุดด่างดำหรือกระค่อย ๆ จางลงอย่างเห็นได้ชัดหลังทำไม่กี่ครั้ง
 
ในการรักษา แพทย์จะเลือกชนิดของเลเซอร์ที่เหมาะสมกับชนิดและความลึกของกระ รวมถึงสภาพผิวของคนไข้แต่ละคน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยเลเซอร์ที่นิยมใช้หลัก ๆ ได้แก่
 
  • Q-Switched Nd:YAG Lase: เหมาะสำหรับ กระตื้น, กระแดด และรอยดำต่าง ๆ ที่อยู่ในชั้นผิวหนังกำพร้า 
  • Pico Laser: เหมาะสำหรับกระทุกชนิด ทั้งกระตื้น กระแดด และโดยเฉพาะกระลึก 
  • IPL (Intense Pulsed Light): เหมาะสำหรับ กระตื้น กระแดด จุดด่างดำ รอยแดงจากสิว และปัญหาเม็ดสีที่ไม่ลึกมาก
 

หลังรักษากระด้วยเลเซอร์

หลังทำเลเซอร์ ผิวอาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อยในบริเวณที่รักษา ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปภายใน 1-3 วัน ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้กระกลับมาเข้มขึ้น
 

หลังรักษากระด้วยเลเซอร์จะกลับมาเป็นอีกไหม

แม้ว่าการรักษาด้วยเลเซอร์จะช่วยลดกระให้จางลงอย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากไม่ได้ป้องกันผิวจากปัจจัยเสี่ยง เช่น การโดนแสงแดดโดยไม่ป้องกัน หรือการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน กระก็อาจกลับมาเป็นซ้ำได้ในอนาคต

รักษากระ ที่ไหนดี

การเลือกสถานที่รักษากระเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ จึงควรพิจารณาเลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลจากเกณฑ์เหล่านี้

  • มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแล: สิ่งสำคัญที่สุดคือคลินิกต้องมีแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง ในการวินิจฉัยและรักษา
  • เครื่องมือทันสมัย ได้มาตรฐาน: เลือกคลินิกที่ใช้เครื่องเลเซอร์ที่ทันสมัยและได้รับการรับรอง เช่น FDA หรือ อย.
  • ประเมินผิวก่อนรักษาอย่างละเอียด: ควรมีการตรวจสภาพผิวและวิเคราะห์ประเภทกระก่อนเริ่มทำการรักษา เพื่อวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น
  • มีรีวิวและผลลัพธ์จากผู้ใช้จริง: พิจารณารีวิวก่อน-หลังรับบริการ และฟังประสบการณ์จากผู้
  • เข้ารับบริการจริง
  • บริการติดตามผลหลังการรักษา: ระบบติดตามผลและดูแลอย่างต่อเนื่อง หลังการรักษา และพร้อมให้คำแนะนำหลังทำ
    ราคาสมเหตุสมผล ไม่โฆษณาเกินจริง: ให้ข้อมูลชัดเจน ไม่ใช้คำกล่าวอ้างเกินจริง หรือราคาแอบแฝง

รักษากระ ที่คลินิก ราคาเท่าไหร่

ค่ารักษากระจะแตกต่างกันไปตามประเภทของกระ วิธีการรักษา และจำนวนครั้งที่ต้องทำ โดยทั่วไปเลเซอร์อยู่ที่ประมาณ 2,000–8,000 บาทต่อครั้ง ส่วนคอร์สทรีตเมนต์หรือเวชสำอางเริ่มที่ 1,000 บาทขึ้นไป

ทำไมต้องรักษากระ ที่ลลิษาคลินิก

  • แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านผิวหนัง
    ที่ลลิษาคลินิก เรามีทีมแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี และมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการวิเคราะห์และรักษากระทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกระตื้น กระแดด หรือกระลึก แพทย์ของเราจะทำการประเมินสภาพผิวของคุณอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
  • เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานระดับสากล
    ลลิษาคลินิกให้ความสำคัญกับการเลือกเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เราจึงเลือกใช้เครื่องเลเซอร์ที่ทันสมัยและได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล เช่น Q-Switched และ Pico Laser
  • ออกแบบแผนการรักษาเฉพาะบุคคล
    เพราะกระแต่ละประเภทต้องใช้แนวทางที่ต่างกัน จึงจำเป็นต้องวางแผนแบบเฉพาะเจาะจงในแต่ละเคสโดยแพทย์ผิวหนัง
  • การบริการที่ใส่ใจทุกขั้นตอน
    ที่ลลิษาคลินิก เราใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การให้คำปรึกษา พร้อมให้ข้อมูลอย่างโปร่งใส เข้าใจง่าย และดูแลคุณอย่างใกล้ชิดตลอดการรักษา มีการดูแลหลังการรักษา พร้อมแนะนำการป้องกันไม่ให้กระกลับมาเป็นซ้ำ
  • ราคาคุ้มค่า พร้อมผลลัพธ์ที่เห็นจริง
    ทุกโปรแกรมการรักษาที่ลลิษาคลินิก ออกแบบให้เหมาะกับปัญหาผิวในงบประมาณที่สมเหตุสมผล เห็นผลจริง โดยไม่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนกับการรักษาที่ไม่ได้ผล

คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับรักษากระ

รักษากระใช้เวลานานไหม ?

ขึ้นอยู่กับประเภทของกระและสภาพผิวแต่ละคน โดยทั่วไปมักใช้เวลาในการรักษา 3–6 ครั้ง ห่างกันทุก 2–4 สัปดาห์ เพื่อให้กระค่อย ๆ จางลงอย่างปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน

ไม่บางลง หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและใช้เลเซอร์ที่เหมาะสม เพราะเลเซอร์ทำลายเฉพาะเม็ดสีในจุดที่มีปัญหาเท่านั้น ไม่ได้กรอผิวออกเหมือนการผลัดเซลล์แบบอื่น

สามารถกลับมาเป็นได้ หากยังไม่หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น เช่น แสงแดด หรือฮอร์โมนที่ไม่สมดุล ดังนั้นการดูแลผิวอย่างต่อเนื่อง เช่น การทากันแดดและติดตามผลกับแพทย์ จึงมีความสำคัญอย่างมาก

ความรู้สึกขณะทำอาจรู้สึกเหมือนโดนดีดเบา ๆ หรืออุ่น ๆ บริเวณผิว โดยทั่วไปไม่ถึงขั้นเจ็บ และสามารถทายาชาช่วยลดความรู้สึกได้ก่อนทำหัตถการ